ทรงใช้พระนามแฝงว่า: “อัศวพาหุ”
รูปแบบ: บทความ
ที่มาของเรื่อง:
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่อง โคลนติดล้อซึ่ง มีทั้งหมด 12 ตอน ลงพิมพ์ในหนังสือไทย พ.ศ. 2458 ตอนความนิยมเป็นเสมียนเป็นตอนที่ 4 ลงพิมพ์ในหนังสือสยาม(สยามออบเซอร์เวอร์) ฉบับวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2458เนื้อเรื่อง:
เสมียนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับหนังสือ ผู้ที่มีการศึกษานั้นนิยมเป็นเสมียน คือ นิยมเข้ารับราชการ ไม่สนใจกลับไปทำการเกษตรในภูมิลำเนาของตน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ให้ประเทศได้มาก ทั้งนิยมใช้ชีวิตอยู่ในเมืองบุคคลเหล่านี้เห็นว่า กิจการอย่างอื่นไม่สมเกียรติยศ คนที่ได้รับการศึกษาไม่ควรเสียเวลาไปทำงานให้ที่คนไม่รู้หนังสือก็ทำได้ และเพราะไม่อยากลืมวิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียนมา คนจำพวกนี้ยอมทนใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ ฯ ทั้งที่เงินเดือนไม่มาก แต่ก็จับจ่ายทรัพย์เพื่อการต่างๆได้ เช่น นุ่งผ้าม่วงสี ดูหนัง กินข้าวตามกุ๊กช้อป บุคคลเหล่านี้ไม่เข้าใจว่าการทำงานอื่นๆนั้นก็มีเกียรติเท่ากับผู้ที่ทำงาน ด้วยปากกาเหมือนกัน
การที่เป็นเช่นนี้ถือเป็นความผิดของเราทั้งหลายด้วย ถ้ายังเห็นว่าการเป็นเสมียนสูงกว่าชาวนาชาวสวนก็จะทะเยอทะยานอยากเป็น ทางกระทรวงทบวงการคัดเลือกเสมียนที่มีมากเกินความจำเป็นออก บุคคลเหล่านี้ก็ไม่อาจเป็นชาวนาได้ ดังนั้นจึงต้องอยู่แต่ในเมือง อายุมากขึ้น โอกาสก็น้อยลง ดังคำกล่าวว่า การทำงานอื่นๆก็สามารถทำประโยชน์ได้ดีกว่าการเป็นเสมียน จึงเห็นว่าการทำงานอื่นก็มีเกียรติยศเหมือนเสมียนเช่นกัน
คุณค่าของเรื่อง:
- เป็นตัวอย่างบทความที่ดี
- เสนอข้อคิดเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองในเรื่องค่านิยมที่เป็นอุปสรรคทำให้ประเทศเจริญได้ช้า
- ให้แนวคิดว่าอาชีพอื่นก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้
ไม่ระบุชื่อ
Said
อยากได้คำอธิบายศัพท์ และสำนวนโวหารในเรื่องนี้อ่ะค่ะ
ไม่ระบุชื่อ
Said
___สหายเอยจงเงยหน้า และเปิดตาพินิจดู
เผยม่านพะพานอยู่ กำบังเนตรบ่เห็นไกล
เปิดม่านแลมองเถิด จะเกิดความประโมทย์ใจ
เห็นแคว้นและแดนไทย ประเสริฐแสนดังแดนสรวง
หวังใดจะได้สม เสวยรมยะแดดวง
เพ็ญอิสสะโรปวง ประชาเปรมเกษมสานต์
ซื่อตรงและจงรัก ผดุงศักดิภูบาล
เพื่อทรงดำรงนาน อิศเรศร์ประเทศสยาม
เป็นตอนจบของบทที่ ๑๒ ของเรื่อง "โคลนติดล้อ" ที่เตือนจิตสำนึกของคนไทยให้ภูมิใจในประเทศของตน
พระ ราชนิพนธ์ประเภทบทความ มีทั้งหมด ๑๒ บท และบทที่ ๑๒ จบด้วยกาพย์ยานี ๑๑ จำนวน ๔ บท เพื่อปลุกใจให้คนไทยรักชาติรักความเป็นไทยชี้ให้คนไทย ได้เห็นข้อบกพร่องของ ตนเองที่ทำให้ประเทศไทยเจริญ ก้าวหน้าช้ากว่าที่ควร
เรื่อง นี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของคนไทย ๑๒ ประการ ที่เปรียบเป็นโคลนติดล้อหรือปัญหาที่ทำให้ประเทศชาติก้าวไปสู่ความเจริญได้ ช้าลง ได้แก่
1. การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง
2. การทำตนให้ต่ำต้อย
3. การบูชาหนังสือจนเกินเหตุ
4. ความนิยมเป็นเสมียน
5. ความเห็นผิด
6. ถือเกียรติยศไม่มีมูล
7. ความจนไม่จริง
8. แต่งงานชั่วคราว
9. ความไม่รับผิดชอบของบิดามารดา
10. การค้าหญิงสาว
11. ความหยุมหยิม
12. หลักฐานไม่มั่นคง
ดัง นั้น ถ้าจะพัฒนาประเทศก็ต้องขจัด ข้อบกพร่องเหล่านี้ให้หมดไป ดังขจัดโคลนที่ติดล้อ อันทำรถวิ่งไปได้ไม่สะดวก เสมือนคนในชาติก็นต้องช่วยกันหาวิธีการแก้ค่านิยม หรือข้อบกพร่องในตนเองให้หมดไป และร่วมกันขับเคลื่อนชาติไทยของเราให้เจริญก้าวหน้า
ไม่ระบุชื่อ
Said
เนื้อเรื่องย่อได้สั้นและได้ใจความ
ไม่ระบุชื่อ
Said
วิเคราะห์คุณค่าของเรื่อง